หลายคนเวลามองส้นเท้าตัวเองทีไร รู้สึกหงุดหงิดใจทุกที กับปัญหาส้นเท้าแตก บางคนเป็นแค่บางช่วง แต่บางคนเป็นตลอดเวลา ทายายังไงก็ไม่หาย ยิ่งปล่อยไว้นาน เท้ายิ่งแตกเป็นร่องลึก ทำให้เท้าไม่สวย ถอดรองเท้า ถุงเท้าออกมา ไม่ค่อยจะน่าดูสักเท่าไหร่ หลังจากที่เรารู้สาเหตุที่ทำให้ส้นเท้าแตกกันไปแล้ว เรามาดูวิธีดูแลส้นเท้าแตก พร้อมวิธีป้องกันง่ายๆ ใช้ได้ผลจริง
6 วิธีดูแลส้นเท้าแตกอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อลุกลาม
วิธีแก้ส้นเท้าแตกจะสามารถดูแลรักษาได้ง่าย หากเราแก้ไขอย่างถูกต้องตรงจุด ประเด็นสำคัญคือการแกะ เกา หรือขัดออกไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้นเริ่มต้นดูแลส้นเท้าของคุณด้วยวิธีที่นุ่มนวล ปลอดภัย และยั่งยืนได้ด้วยเทคนิคต่อไปนี้
1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่คืนความชุ่มชื้นแก่ผิวเพื่อลดส้นเท้าแตก
บริเวณส้นเท้าที่มีรอยแตก สามารถเลือกใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาดูแลได้ เช่น ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไดเมธิโคน (Dimethicone) เป็นสารหล่อลื่นผิวหนังที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งได้ดี ลดภาวะการเกิดผิวหนังหนา หยาบกร้าน สามารถใช้ทาส้นเท้าแตกได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
2. ดื่มน้ำสะอาดช่วยลดอาการส้นเท้าแตก
เปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำสะอาดต่อวัน ให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยของการเกิดภาวะผิวหนังแห้งและแตก
3. อาบน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนเกินไป
ปรับอุณหภูมิน้ำใหม่ ให้มีความอุ่นค่อนไปทางเย็น มากกว่าร้อน และทุกครั้งที่อาบน้ำอุ่น หรือแช่ตัวในน้ำอุ่นเรียบร้อยแล้ว ให้อาบน้ำเย็นซ้ำอีกครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้นให้รูขุมขนที่เปิดเพราะความร้อนปิดลง ผิวหนังจะสามารถรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้
4. รักษาแผลที่ส้นเท้าให้หายขาด
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีความเสี่ยง ควรหมั่นตรวจสอบรอยแตกบริเวณส้นเท้า และบาดแผลที่ฝ่าเท้าเป็นประจำ หากพบว่าเริ่มเกิดอาการส้นเท้าแตก หรือเริ่มมีบาดแผล ให้รีบจัดการทำแผลและดูแลให้สะอาดจนกระทั่งหายขาด อย่าปล่อยทิ้งไว้แม้จะเป็นเพียงรอยแตกเล็ก ๆ
5. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในมาตรฐานเพื่อป้องกันอาการส้นเท้าแตก
สำหรับผู้ป่วยโรคอ้วน และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับมาตรฐาน เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดการกดที่ส้นเท้า ทำให้เกิดรอยแตก และนำมาซึ่งการติดเชื้อได้
ช่องทางการสั่งซื้อรองเท้าสุขภาพ Deblu
ดูสินค้าและสั่งซื้อรองเท้าสุขภาพที่ https://deblu.com/shop/
สามารถสั่งซื้อบนช่องทางออนไลน์อื่นๆที่
6. เลือกใช้รองเท้าให้เหมาะสม
ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับลักษณะเท้าของตัวเอง มีพื้นรองเท้าที่นุ่ม สามารถรองรับอุ้งเท้าได้ดี
จะเห็นได้ว่าอาการส้นเท้าแตกเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ตั้งแต่โรคประจำตัวไปจนถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคประจำตัวควรปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ส่วนผู้ที่ร่างกายแข็งแรงดี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ โดยเฉพาะการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ฉ่ำน้ำ และสุขภาพโดยรวมของร่างกายภายในมีความแข็งแรง สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกที่ส้นเท้า
“สุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่ (รอง) เท้า”รองเท้าสุขภาพ Deblu ออกแบบมาสำหรับทุกปัญหาสุขภาพเท้าและทุกคน
แอดLine@ ของ Deblu ได้ที่ 👉 https://line.me/R/ti/p/%40ool5177g